เกร็ดความรู้สำหรับคุณแม่ กับความแตกต่างของนมผงเด็กสูตรต่างๆ

ดังที่เรารู้กันว่านมแม่นั้นถือว่าเป็นนมที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย แต่คุณแม่บางคนนั้นไม่สามารถให้นมบุตรได้ จึงต้องหันมาพึ่งนมผงเด็กสูตรต่างๆ เพื่อมาทดแทน แต่การเปลี่ยนมาใช้นมผงก็ทำให้เกิดคำถามว่านมแต่ละสูตรนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร? และจะเลือกอย่างไรให้เหมาะสม?

โดยปัจจุบันมีนมผงเด็กอยู่หลายสูตรในท้องตลาดที่เหมาะสมกับเด็กที่มีช่วงอายุวัยแตกต่างกันออกไป วันนี้เราจึงมาแชร์เกร็ดความรู้ดีๆ เกี่ยวกับนมผงเด็กสูตรต่างๆ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะช่วยให้คุณแม่เลือกซื้อได้เหมาะสมและถูกหลักโภชนาการที่สุด

ความแตกต่างของนมผงเด็กในแต่ละสูตร

นมผงเด็กอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 3 ปีจะมีทั้งหมด 3 สูตรซึ่งจะมีการปรับโภชนาการและสารอาหารที่แตกต่างกันออกไปให้สมกับวัยของลูกน้อย โดยแต่ละสูตรจะมีรายละเอียดดังนี้

  1. นมผงเด็กสูตร 1

เหมาะสมกับเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 1 ขวบ เป็นสูตรที่จะมีการดัดแปลงโปรตีนให้ต่ำและเน้นที่ไขมัน เพราะวัยแรกเริ่มนี้จะต้องการสารอาหารด้านไขมันมากกว่า อีกทั้งยังเป็นสูตรที่ย่อยได้ง่ายที่สุด ทำให้ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการระบบย่อยอาหารและดูดซึมของลูกน้อย

  1. นมผงเด็กสูตร 2

เหมาะสมกับเด็กอายุ 6 เดือนจนถึง 3 ขวบ มีโปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และโซเดียมที่เพิ่มมากขึ้นจากสูตร 1 แต่สำหรับเด็กบางคนนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนนมมาเป็นสูตร 2 โดยสามารถให้ดื่มนมสูตร 1 ที่มีโปรตีนเพียงพอจนอายุ 1 ขวบได้

  1. นมผงเด็กสูตร 3

เหมาะสมกับเด็กอายุตั้งแต่ 1 ขวบขึ้นไป รวมถึงบุคลากรในครอบครัวก็สามารถดื่มได้ เนื่องจากสูตรนี้จะมีสัดส่วนของโปรตีนที่เหมาะสม แคลเซียมที่ช่วยเสริมสร้างกระดูก วิตามิน และแร่ธาตุที่ใกล้เคียงกับนมวัว

นอกเหนือไปจากนมทั้ง 3 สูตรที่ได้กล่าวเอาไว้แล้วก็ยังมีนมผงสูตรพิเศษที่เหมาะสมกับเด็กที่มีโรคประจำตัวหรือมีความเสี่ยงในการเกิดโรคบางประการ เช่น เด็กที่เป็นโรคแพ้น้ำตาลแลคโตส (Lactose Intolerance) ที่ไม่สามารถย่อยโปรตีนได้ เด็กที่มีความเสี่ยงเกิดโรคภูมิแพ้ เด็กที่มีน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์หรือคลอดก่อนกำหนด

อย่างไรก็ตามก่อนให้นมเด็กทุกสูตรนั้นควรที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ เนื่องจากเด็กแรกเกิดไปจนถึงอายุ 3 ขวบนั้นยังมีภูมิคุ้มกันต่ำ สามารถเจ็บป่วยได้ง่ายไม่ว่าจากทั้งสภาพแวดล้อมภายในบ้านและอาหารที่ได้รับประทานในแต่ละมื้อ การศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมจึงสามารถช่วยดูแลลูกน้อยให้เติบโตแข็งแรง มีพัฒนาการที่สมวัย พร้อมออกเผชิญกับโลกภายนอกได้เต็มที่